ใครอยากมีเงินล้าน

ใครอยากมีเงินล้าน

ใครอยากมีเงินล้าน

ใครอยากเป็นเศรษฐี ฉันนะสิ ฉันนะสิ

ใครอยากเป็นเศรษฐี ฉันนะสิ ฉันนะสิ

รอยยิ้มมุมปากซ้ายขยับเป็นรอยชัดเจน ไม่อยากจะเชื่อเลย ตอนนี้ผมกําลังมีความสุขมาก

“น้องๆ” เสียงดังนั้นตะโกนเข้าไปถึงแก้วหู” ในใจนี่ปรี้ดดดเลย ใครฟร่ะ!!!

“น้องไม่ลงหรอ ถึงอู่รถเมล์แล้วนะ จะไปทํางานหรือเปล่าล่ะ”

สิ้นเสียงของพี่กระเป๋าคนงาม ตาของผมก็เปิดกว้างพร้อมกับกระเด้งตัวลุกขึ้นจากเบาะแข็งๆของรถเมล์สาย 789 และโพล่งถาม

“พี่ครับที่นี่ ที่ไหนครับ”

“อู่คลองเตยไงน้อง”

พี่คนขับตอบอย่างใจเย็น แต่ผมเองคิดในใจ “ตรูเย็นไม่ไหวแล้วโว้ยยยย” ทันใดนั้นขา
สั้นๆของผมใส่เกียร์โฮ่ง ซอยเท้าถี่แรงก้าวอย่างว่องไว เสียงส้นรองเท้าหนังกระทบกับพื้นกระดานไม้รถเมล์ดังสนั่น ผมกระโดด
ลงจากรถ พร้อมกับอุทานออกมาดังๆว่า

“ตายแล้วตรู ตายแล้วตรู สายแน่ๆ”

ใช่ครับ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นปกติ ตลอดช่วงเวลา 7 เดือนที่ผมต้องเปลี่ยนเครื่องแบบจากนักศึกษาสู่พนักงานแบงค์
ชีวิตที่ปรับตัวแล้ว แต่ยังไม่ลงล็อคสักทีกําลังต้องการความพยายามขั้นสุดอยู่ เพราะถ้าหากเดือนต่อๆไปผมยังเป็นแบบนี้ คาด
ว่าผลการประเมินการทดลองงานคงจะออกมาไม่จืดแน่ๆ แม้ว่าการทํางานของผมจะระดับห้าดาวก็ตาม ฮ่าฮ่าฮ่า ขอเคลมนิดนึงครับ

คนทุกคนมีความฝัน ผมเองก็เช่นกัน ผมเกิดและเติบโตมาจากครอบครัวฐานะเกือบจะปานกลาง โชคดีหน่อยที่ไม่ต้องเช่าบ้านหรือจ่ายค่าหอพัก เพียงแต่ทํางานหาเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่เรื่องค่านํ้าค่าไฟเท่านั้นเอง ผมจึงตังใจเรียนหนังสือให้สมกับที่พ่อแม่และตัวเองตั้งใจไว้ ส่งผลให้ผมจบมาด้วยเกียรตินิยม วิชาเอกการเงิน และแน่นอนผมก็เรียนจบมาพร้อมกับหนี กยศ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จํานวน 80,000 บาท ไม่มากไม่น้อย พอที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผมเองต้องสู้ชีวิตต่อไป

เอาล่ะครับ จากที่เกริ่นมาทังหมดข้างต้น ทําให้ผมต้องวางแผนบริหารเงินเดือนเดือนแรกของผม ผมจะใช้เงินที่หามาได้อย่างสุจริตนั้นอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด มันเหมือนเป็นการกําหนดภารกิจที่สําคัญเพื่อที่จะเก็บรวมรวบเงินให้ได้เยอะๆ ซึ่งขณะนั้นเองก็บอกต่อไม่ได้ว่าเก็บเยอะๆแล้วเอาไปทําอะไร ……. แต่บางทีส่วนลึกข้างในใจอาจมีคําตอบแล้ว

ผมเริ่มสํารวจข้อมูลนิสัยการจับจ่ายใช้สอยเงินและสุขภาพทางการเงินของตัวเอง

  1. การเก็บรักษาสิ่งของของตัวเอง – ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียน เสือผ้าเครื่องแต่งกาย ผมจะรู้จักใช้รู้จักเก็บ ไม่ทําหาย (เพราะครูคณิตศาสตร์เคยบอกไว้ตอนที่ผมทําสมุดเลขหายว่า สสารไม่มีวันหายไปจากโลก ฮ่าฮ่าฮ่า จอบอ
    เลยครับ ลอกใหม่ทั้งเล่มสิครับ รอไร) นอกจากจะเป็นการยืดอายุการใช้งานแล้ว ก็ทําให้เราไม่สิ้นเปลืองเงินทองในการซือใหม่ ปัจจุบันผมยังมีไม้บรรทัดเหล็กที่ใช้มานานตังแต่เรียน มหาวิทยาลัยปี 2 นับๆดูก็อืมมมม 15 ปีแล้ว … ก็เห็นตรงตามที่คุณครูท่านว่า สสารไม่มีวันหายไปจากโลก ฮ่าฮ่าฮ่า
  2. สุขภาพทางการเงิน ผมมีหนี้สินจํานวนแปดหมื่นบาทจากกองทุนเงินให้กู้ยืมการศึกษา จําได้ว่าหนี้ก้อนนี้จะปลอดดอกเบียอยู่ 2 ปี และอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 เท่านั้น ซึ่งคํานวณแล้วจะดอกเบี้ยจะตกปีละ 800 บาท ผมจึงคิดว่า
    ในระยะ 2 ปีนีจะยังไม่ใช้หนี้กองทุน แต่จะเก็บเงินเพื่อสร้างกระแสเงินสดให้ตัวเองไปก่อน
  3. ….. โปรดติดตาม EP หน้าครับ …..

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Related post

ซากุระ ….. ซาโยนะระ

ซากุระ ….. ซาโยนะระ

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineซา […]